หลักเกณฑ์การพิจารณาปรับเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่
1. การเลื่อนตำแหน่งปฏิบัติการทั่วไป ปฏิบัติการเทคนิค จากระดับปฏิบัติการ เป็น ระดับต้น
คุณสมบัติ
- เป็นผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งระดับปฏิบัติการ ไม่น้อยกว่า 2 ปี
- เป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมากขึ้นไป (80 คะแนนขึ้นไป) ติดต่อกัน 2 ปี
- เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในหน้าที่เป็นอย่างดี มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์
- ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยในช่วงระหว่าง 2 ปี ย้อนหลัง หรือไม่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการวินัย
การประเมินความเหมาะสม
- ให้คณะทำงานกลั่นกรองความเหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่งทำหน้าที่ในการประเมินความเหมาะสมเพื่อเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ผลการประเมินต้องไม่น้อยกว่า 80 คะแนนขึ้นไป
การได้รับเงินเดือนเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
- หากได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนเดิม
- หากได้รับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของตำแหน่งใหม่
2. การเลื่อนตำแหน่งปฏิบัติการทั่วไป ปฏิบัติการเทคนิค วิจัยและวิชาการ จากระดับต้น เป็น ระดับชำนาญการ
คุณสมบัติ
- เป็นผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งระดับต้น ไม่น้อยกว่า 2 ปี
- เป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมากขึ้นไป (80 คะแนนขึ้นไป) ติดต่อกัน 2 ปี
- เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในหน้าที่เป็นอย่างดี มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์
- ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยในช่วงระหว่าง 2 ปี ย้อนหลัง หรือไม่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการวินัย
การประเมินความเหมาะสม
- ให้คณะทำงานกลั่นกรองความเหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่งทำหน้าที่ในการประเมินความเหมาะสมเพื่อเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ผลการประเมินต้องไม่น้อยกว่า 80 คะแนนขึ้นไป
การได้รับเงินเดือนเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
- หากได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนเดิม
- หากได้รับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของตำแหน่งใหม่
3. การเลื่อนตำแหน่งปฏิบัติการทั่วไป ปฏิบัติการเทคนิค วิจัยและวิชาการ จากระดับชำนาญการ เป็นระดับชำนาญการพิเศษหรือหัวหน้างาน
คุณสมบัติ
- เป็นผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งระดับชำนาญการ ไม่น้อยกว่า 3 ปี
- เป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมากขึ้นไป (80 คะแนนขึ้นไป) ติดต่อกัน 2 ปี
- เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในหน้าที่เป็นอย่างดี มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์
- ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยในช่วงระหว่าง 2 ปี ย้อนหลัง หรือไม่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการวินัย
การประเมินความเหมาะสม
- ให้คณะทำงานกลั่นกรองความเหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่ง ทำหน้าที่ในการประเมิน
ความเหมาะสมเพื่อเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ผลการประเมินต้องไม่น้อยกว่า 80 คะแนนขึ้นไป
การได้รับเงินเดือนเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
- หากได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รรับเงินเดือนเดิม
- หากได้รับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของตำแหน่งใหม่
4. การเลื่อนตำแหน่งวิจัยและวิชาการ จากระดับชำนาญการพิเศษ เป็น ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
คุณสมบัติ
- เป็นผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า 3 ปี
- เป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมากขึ้นไป (80 คะแนนขึ้นไป) ติดต่อกัน 2 ปี
- เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในหน้าที่เป็นอย่างดี มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์
- ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยในช่วงระหว่าง 2 ปี ย้อนหลัง หรือไม่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการวินัย
การประเมินความเหมาะสม
- ให้คณะทำงานกลั่นกรองความเหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่ง ทำหน้าที่ในการประเมิน
ความเหมาะสมเพื่อเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ผลการประเมินต้องไม่น้อยกว่า 80 คะแนนขึ้นไป
การได้รับเงินเดือนเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
- หากได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนเดิม
- หากได้รับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของเงินเดือนในตำแหน่งใหม่ ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของตำแหน่งใหม่
5. ในกรณีมีเจ้าหน้าที่ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง หากมีผลงานปรากฎเป็นที่ประจักษ์ สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกรณีพิเศษ ให้ผู้บังคับบัญชาเสนอรายชื่อและผลงานต่อคณะทำงานกลั่นกรองความเหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่ง เพื่อพิจารณากลั่นกรองและเสนอความเห็นต่อผู้อำนวยการให้ความเห็นชอบ
6. กำหนดให้การพิจารณาปรับเลื่อนตำแหน่งประจำปี จัดขึ้นทุกเดือนกันยายนของทุกปี โดยการเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ให้มีผลในตุลาคมของปีนั้น ๆ